Pages

Friday, May 22, 2009

อะไรดีอะไรไม่ดี อะไรถูกอะไรผิด

อะไรดีอะไรไม่ดี  อะไรถูกอะไรผิด

เหตุการณ์อย่างหนึ่ง เราผู้เป็นมนุษย์ซึ่งมีปัญญาอันน้อยนิด ไม่สามารถตีความได้เลยว่า เป็นฝีมือใคร ขาวหรือดำ ดีหรือไม่ดี ยกตัวอย่างเช่น

ข้าราชการวิ่งเต้นขอย้ายไป จ.สุพรรณบุรี แต่เอาเข้าจริงกลับถูกย้ายไปลง จ.อ่างทอง ความรู้สึกขณะนั้น คือความผิดหวังอันใหญ่หลวง ความไม่สะดวกนานาประการที่ไม่ได้เตรียมตัวถาโถมกันเข้ามา แต่การณ์กลับปรากฏว่าท่านได้ไปพบครูบาอาจารย์ในวิชชาธรรมกายชั้นสูง เป็นเหตุให้ได้แก้ไขวิชชาของตน และนำมาใช้ปฏิบัติได้สืบมาจนทุกวันนี้

วิทยากรท่านหนึ่งมีงานสอนธรรมะร่วมกับหมู่คณะอยู่ใน กทม. ที่กำลังไปได้สวย อยู่ดีๆ ถูกย้ายไป จ.ระยอง ตอนแรกก็นึกอย่างเดียวว่าถูกมารขวางงานสอน  แต่สุดท้ายวิทยากรท่านนั้นสามารถไปเปิดงานสอนใน จ.ระยองได้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นงานสอนใหญ่ และเป็นที่ยอมรับจนทุกวันนี้ หากยังอยู่ใน กทม. ป่านนี้ก็ยังเป็นได้แค่วิทยากรผู้ช่วย คอยติดตามงานสอนของวิทยากรผู้ใหญ่เท่านั้น

วิทยากรอีกท่านหนึ่ง ตอนเป็นเด็ก เห็นธรรมกายชัดเจน พอเข้าวัดๆ หนึ่ง ธรรมกายที่เคยเห็นก็ดับลง ควรเป็นฝีมือของใคร แต่ธรรมกายมาเกิดใหม่ในยุคงานสอนตามโรงเรียน ทำให้วิทยากรท่านนั้นมีโอกาสมาทำงานสอนด้วยตนเองเต็มตัว หากยังเห็นธรรมกายขณะเข้าวัด ป่านนี้ ก็คงบวชตลอดชีวิตไปแล้ว ไม่มีโอกาสมาทำงานสอนด้วยตนเองอย่างที่เป็นอยู่

แพทย์ท่านหนึ่งทะเลาะกับเจ้านายจนตัดสินใจลาออกจากราชการ กลับกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ตนเองประสบความสำเร็จอย่างสูงในธุรกิจขายตรงธุรกิจหนึ่ง ได้มีเวลาอยู่กับครอบครัว มีกรอบความคิดที่กว้างขวางขึ้น ชีวิตมีความสุขมากกว่าเดิม กลายเป็นว่าต้องขอบใจเจ้านายคนนั้น

แม้ตัวอย่างที่ยกมาบางอันจะหนักไปทางความเชื่อในวิชชาธรรมกาย แต่ท่านผู้อ่านสามารถอุปมาอุปมัยเหตุการณ์เป็นตัวอย่างได้ อะไรก็ตามที่เกิดแก่ชีวิตเรา มันอาจดูขัดใจในตอนต้นๆ เพราะปัญญามนุษย์อย่างเราสาวไปไม่ถึงเหตุการณ์ทั้งอดีตปัจจุบันอนาคตที่ลึกพอ เราจึงได้แต่ตัดสินใจเฉพาะหน้า แต่เอาเข้าจริงเหตุการณ์นั้นกลับพลิกชีวิตเราให้เป็นไปในทางที่ดีอย่างคาดไม่ถึง เราจึงควรมองเหตุการณ์อย่างเป็นกลางไปก่อน ทำใจเราให้ใสสว่างเข้าไว้ ทุกอย่างจะค่อยๆ เปลี่ยนกลับมาดีเอง

สุดท้าย ใจเรานี่แหละเป็นใหญ่ ใจเรานี่แหละเป็นประธาน นั่นเอง