เมื่อผมจำเป็นต้องจัดการกับไม้เลื้อยในบ้าน
ผมปลูกต้นโนรีต้นหนึ่งมาประมาณ 5-6 ปี แรกๆ ไม่รู้ว่ามันเป็นไม้เลื้อยที่เติบโตอย่างรวดเร็ว กิ่งก้านสาขาของมันเลื้อยพันไปรอบทิศ ไปเกาะตามต้นไม้รอบข้าง โดยเฉพาะต้นลีลาวดีที่อยู่ใกล้ๆ โดนกิ่งก้านของมันรัดไปประมาณครึ่งต้น กิ่งที่รัดก็ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ พันเป็นเกลียวแน่นหนา จนต้นลีลาวดีเหี่ยวเฉาแทบจะไม่ออกใบ
สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมตัดสินใจตัดต้นโนรีนี้ทิ้งเสีย โดยมีผู้ช่วย 1 คน เราวางแผนว่าจะรื้อมันอย่างไรดี ระหว่าง 1. ริดกิ่งย่อยๆ มาก่อน จนถึงต้นใหญ่ และค่อยตัดตอทิ้ง กับ 2. เลื่อยหรือฟันโคนต้นทิ้งเสียก่อน แล้วค่อยๆ ริดกิ่งเล็กกิ่งน้อยที่แตกออกไปทีหลัง
เราเลือกวิธีที่ 2 เพราะการตามริดจากกิ่งปลายๆ ก่อน มันมากมายมหาศาลจนเริ่มต้นไม่ถูก บางกิ่งไปโผล่บนยอดไม้ต้นอื่นสูงมาก หากเราเลื่อยหรือฟันต้นตอใหญ่เสียก่อน แล้วตามลากกิ่งเล็กๆ ตัดตอนไปเรื่อยๆ ดูจะง่ายกว่ามาก
เราใช้เวลาจัดการกับต้นโนรีประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ตัดโคนต้น ตัดตอใหญ่ของมันก่อน และสาวกิ่งที่ลามไปพันตามที่ต่างๆ ได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถเอากิ่งเล็กกิ่งน้อยออกได้ทั้งหมดในวันแรกๆ เพราะมันมากมายเหลือเกิน แต่เรารู้ว่าไม่มีต้นตอให้ต้นโนรีต้นนี้เติบโต หรือส่งน้ำเลี้ยงให้กิ่งย่อยๆ ได้อีกแล้ว
กิ่งย่อยที่แตกออกไปพันตามยอดไม้ที่เรายังไปไม่ถึง แม้ยังเอาออกไม่หมด มันก็ต้องเหี่ยวแห้งไปอย่างแน่นอน จะว่าไป การจะเก็บให้หมดก็ไม่ง่ายเลย เพราะเราปล่อยไว้ไม่ได้ดูแลมานาน มันโตมากจนรัดเป็นเกลียวแน่นหนา การจะเอาออก เราต้องยอมตัดกิ่งลีลาวดีออกไปบางกิ่งด้วยซ้ำ บางทีเป็นกิ่งใหญ่ๆ ด้วย หากยังรื้อไม่ไหวในวันนี้ ก็รอไปก่อน ค่อยๆ มาทำวันหลัง หรือยังไม่ต้องยุ่งกับมันเสียเลยก็ได้
เปรียบเทียบกับการปราบมารของคุณลุง หากเรามะงุมมะงาหรา แก้ทุกข์ภัยโรคเฉพาะหน้าไปเรื่อยๆ สาวไปหาผู้ต้นคิดวิชชาไปทีละเรื่อง เมื่อไหร่จะหมด โดยเฉพาะต้นใหญ่ๆ ของเขายังส่งกำลังบำรุงมาได้ตลอดเวลา
แต่คุณลุงของเราใช้วิธี เจาะให้ทะลุเหตุสุดธาตุสุดธรรม ไปยังเหตุเลยรู้เลยญาณ ซึ่งเป็นที่อาศัยของมารระดับต้นใหญ่ของเขาก่อน รบตรงนั้นก่อน จัดการที่ต้นตอก่อน เมื่อดับที่ต้นตอได้ เหตุทั้งปวงที่ยังหลงเหลืออยู่ แม้ดูเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่มันก็จบลงแล้ว มันจะเปลี่ยนไปในกาลข้างหน้าอย่างแน่นอน
เช่นเดียวกับ เศษซากกิ่งไม้ที่แม้ยังหลงเหลืออยู่ ยังสร้างความเดือดร้อนอยู่ แต่หมดโอกาสเติบโตต่อ มีแต่จะเหี่ยวเฉาไปทุกวัน ความเดือดร้อนที่ยังมี เราก็แก้กัน เก็บกันไปเป็นกิ่งๆ เป็นคราวๆ ด้วยความอดทน
เปรียบเทียบให้เห็น เป็นปกิณกะครับ
นพ. นิพนธ์ หลงประดิษฐ์
7 ม.ค. 2564