Pages

Thursday, January 10, 2019

ขันธ์ 5


ขันธ์​ เป็นส่วนประกอบ​สำคัญ​ของ ขันธโลก (จากบทความ เราคือใคร)

ขันธ์​ 5 มีอธิบาย​ในหลักสูตร​วิชชา​ธรรมกาย​ชั้นสูง​ ในเล่ม มรรคผลพิสดาร​ภาค 1 ของหลวงพ่อ​วัด​ปากน้ำ​ คุณ​ลุง​ได้ทำคำอธิบาย​วิธี​เดินวิชชา​ไว้อย่าง​ละเอียด​แล้ว และ​ผมได้เอามาทำ​เป็น​แผนภูมิ​เพื่อให้ทบทวนได้ง่ายๆ​ ไปแล้ว​

แต่​วันนี้​ จะมาคุยจากพื้นฐาน​กัน

ขันธ์​ 5 ประกอบ​ด้วย รูปขันธ์​ เวทนา​ขันธ์​ สัญญา​ขันธ์​ สังขารขันธ์​ วิญญาณ​ขันธ์​
หากศึกษา​โดยวิธีตีความจากถ้อยคำ อาจจะ​มีความลึก​ซึ้งจนเข้าใจยาก เราควรมองจากภาพรวมของตัวเราเข้าไป
มนุษย์​มาเกิด มีสมบัติ​ติดตัวมา 2 อย่าง คือ กาย กับ ใจ
กาย เป็น​สิ่งจับต้องได้ มีตัวตนให้เห็​น​ ส่วน ใจ จับต้องไม่ได้​ ไม่มีรูปร่าง​ ไม่มีตัวตน เรารู้​ว่า​มี​ใจ เพราะเราสัมผัสได้ถึงหน้าที่ของใจ 4 อย่าง คือ เห็น​ จำ ​คิด ​รู้​ นั่นเอง ผู้​ที่​สามารถ​แยกแยะหน้าที่ของใจได้ลึกซึ้ง​ขนาดนี้ มีหลวงพ่อ​วัด​ปากน้ำ​องค์​เดียว​เท่านั้น​

การศึกษา​เรื่อง ​กาย ผู้​ที่​อบรมทางแพทย์​ย่อมรู้ดี โดยเฉพาะตอนเรียนวิชากาย​วิภา​ค (Anatomy)
กาย หากไม่มีใจครอง กายนั้น​ก็​เป็น​เพียง​ซากศพ​ มนุษย์​ที่มีชีวิต​ ต้องมีใจ หรือเรียกให้ละเอียด​คือ มีจิต มีวิญญาณ​ ครอง
การจะดู ใจ กระทั่งแยกแยะ ใจ ออกเป็นส่วนๆ เป็น​เรื่องยาก แต่ไม่พ้นความเพียร​พยายามของผู้รู้ หากเทียบกับกาย ก็เหมือนเรากำลัง​ศึก​ษา anatomy ของใจ นั่นเอง

ในทางวิชชา​ธรรมกาย​ เราเรียนรู้โดยการ เห็นก่อนจะผ่านมาถึงขันธ์​ เราต้องผ่าน (เห็น)​ ดวงธรรม​ที่ทำให้เป็น​กายเสียก่อน แล้วเห็น​กำเนิดเดิม (ศูนย์​รวมของความเป็​น​ตัวเราในชาตินี้)​ เป็นจุดเล็กใสเท่าปลายเข็ม แล้วจึงเข้าไปถึงขันธ์​
รูปขันธ์​ คือ ส่วนละเอียดของกาย เป็น​ดวงกลมใส ลึกเข้าไป เป็น​ เวทนา​ขันธ์​ คือส่วนละเอียด​ของเห็น เข้าไปอีกเป็น​ สัญญา​ขันธ์​ ส่วนละเอียด​ของจำ สังขารขันธ์​ ส่วนละเอียดของคิด วิญญาณขันธ์ ส่วนละเอียดของรู้ เป็นลำดับไป

เรียบเรียงง่ายๆ คือ
รูป - กาย
เวทนา - เห็น
สัญญา - จำ
สังขาร - คิด
วิญญาณ - รู้
ก็คือ กาย กับ ใจ ที่แยกส่วนให้ละเอียดขึ้น นั่นเอง

เห็นขันธ์ 5 แล้ว มีบทเรียนต่อไปอย่างไร?

ก็ไปดูให้ครบ ขันธ์ติดต่อกับโลกภายนอกด้วย อายตนะ 12” แล้วส่งข้อมูลผ่านไปตาม ธาตุ 18”  มีการตีความ พอใจไม่พอใจ โดยอาศัย อินทรีย์ 22” ของแต่ละบุคคล ทำให้ตีความไม่เหมือนกัน อ่อนแก่หยาบละเอียด ไม่เท่ากัน  แต่ผมจะไม่ลงลึกในรายละเอียดเหล่านี้ในตอนนี้ อยากให้ดูบทเรียนต่อเนื่องเรื่องขันธ์ ซึ่งมีอยู่ในตำราต่อไป คือ

ท่านให้ไปดูว่า ขันธ์ เป็นอยู่อย่างไร พบว่าขันธ์ของกายมนุษย์ ถูกปกครองด้วยทุกข์สมุทัยเต็มรูปแบบ มีแก่เจ็บตาย เป็นเบื้องหน้า ด้วยกันหมดทั้งสิ้น เราเห็นดวงทุกข์สมุทัย (เป็นดวงดำ) หุ้มที่ดวงเห็นจำคิดรู้ของกายมนุษย์อย่างเต็มรูปแบบ ตำรายังให้ไปดูว่า เวลาตายกายละเอียดออกจากร่างมนุษย์อย่างไร โดยไปหาดูจากคนที่กำลังจะตายตามโรงพยาบาล มีการส่งมอบขันธ์​ไปให้กายละเอียดข้างใน มีการเก็บรักษา​รูป​แบบ​ขันธ์​เอาไว้ (โดยใคร?)​ เหล่านี้มีในบทเรียนทั้งสิ้น นี่แหละจึงสรุปได้ว่ากายมนุษย์ ตกอยู่ในไตรลักษณ์ (ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา) และมีครบถ้วนทั้ง แก่เจ็บตาย

ทำอย่างไรจึงจะพ้นทุกข์ประจำเหล่านี้ไปได้

ตำราก็ให้ไปดูขันธ์ของกายอื่นๆ ตั้งแต่ กายทิพย์ กาย(รูป)พรหม กายอรูปพรหม จนถึงกายธรรม โดยจะเห็นดวงทุกข์สมุทัย หุ้ม เห็นจำคิดรู้ ของกายนั้นๆ พบว่า กายทิพย์ก็ยังตกอยู่ในไตรลักษณ์ แต่ไม่เต็มรูปแบบเหมือนกายมนุษย์ มี เกิดกับตาย ไม่มีแก่ไม่มีเจ็บ กายพรหมกายอรูปพรหม คล้ายๆ กายทิพย์ แต่อายุยืนยาวมาก จนผู้ปฏิบัติยุคแรกๆ เข้าใจว่าเป็นอมตะ ไม่ตายแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังตายอยู่ดี ครั้นไปถึงกายธรรม ไม่พบทุกข์สมุทัยมาหุ้มแล้ว แต่กายธรรมต้นๆ ยังมีกิเลสระดับบางๆ หุ้มอยู่ ต้องเข้าไปจนถึงกายธรรมที่ตรัสรู้แล้วนั่นแหละ จึงจะพอฟังได้

ที่อยากจะสื่อให้เข้าใจตอนนี้คือ หากเราเข้าไม่ถึง กายต่างๆ ที่กล่าวมา เราก็ รู้เห็นเป็น แค่กายมนุษย์กายนี้เท่านั้น มองไปทางไหนก็เห็นอยู่แค่นี้ ไม่ว่าจะทำอย่างไร กายมนุษย์กายนี้ก็หนีแก่เจ็บตายไปไม่พ้น จึงมีบางความรู้ ให้ "ปล่อยวาง" ซะเลย ยอมรับซะเลยว่าเป็นธรรมดาของสังขาร เราไม่อาจหนีพ้นไปได้ มันก็ถูกต้องสำหรับการรู้เห็นแค่กายมนุษย์กายเดียว แต่ความรู้ท่านยังไปไม่ถึงไหน

อยากเข้าใจชีวิตอย่างละเอียด มาเรียนวิชชาธรรมกายกัน วิชชาธรรมกายมีทั้งรู้ญาณ และเหตุผล หากท่านเป็นน้ำเต็มแก้ว ก็ไม่มีใครเอาอะไรมาเติมได้อีกแล้ว ท่านจะติดโลก ติดกระโหลกกะลา ไปทำไมกัน  ที่ว่า "ติด" เพราะท่านไปไม่พ้นจากกายมนุษย์​ของท่าน ทั้งๆ ที่ท่านคิดว่าท่าน "ปล่อยวาง" แล้ว​ก็ตาม​

วันเวลาที่ล่วงไปๆ ได้คร่าชีวิตสรรพสัตว์ไปแล้วไม่รู้เท่าไหร่ ตายไปก็อย่าให้หลงตาย ไม่ได้ความรู้อะไรเลย

นิพนธ์ หลงประดิษฐ์
10 ม.ค. 2562