เนื้อหาในวันนี้อาจคล้ายกับเรื่องที่ผ่านมา เช่น รู้ญาณกับเหตุผล กาลามสูตร พรสวรรค์กับพรแสวง ฯลฯ แต่วันนี้เน้นเรื่องการเชื่อในรู้ในญาณเป็นหลัก
รู้ญาณ คือความรู้ที่เกิดจากประสาทสัมผัสที่ไม่ใช่ของกายมนุษย์โดยตรง อาจเป็นความรู้จากกายในกายข้างใน เช่นกายฝัน กายทิพย์ จนกระทั่งถึงกายธรรม รู้ญาณอาจชัดเจนมากเหมือนเห็นหรือสัมผัสได้ด้วยกายมนุษย์เอง หรืออาจเป็นเพียงความรับรู้ ความรู้สึก โดยยังไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่างนัก ที่เรียกว่าสังหรณ์ ก็ได้
รู้ญาณควรมีเหตุผล หรือปัญญากำกับเสมอ รู้ญาณกับเหตุผลจึงเป็นของควรคู่กัน ถ้าเปรียบเป็นอาหาร รู้ญาณก็คือรสชาติของอาหาร เหตุผลคือคุณค่าทางโภชนาการของอาหารนั้น จะเอาเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ หากเอาแต่รสชาติไม่เอาคุณค่า ก็อาจได้แต่อาหารขยะ ทำลายสุขภาพเรา หากเอาแต่คุณค่าทางโภชนาการ ไม่เอารสชาติ เราก็ทานไม่ลง
เราเชื่อรู้ญาณเพราะอะไร ?
- เพราะ ไม่เคยรู้มาก่อนว่าต้องมีการตรวจสอบ
หากเราอ่านเรื่องกาลามสูตร เราจะรู้ว่าข้อมูลทั้งปวงต้องตรวจสอบทั้งนั้น หลักกาลามสูตรตรวจสอบข้อมูลที่กายมนุษย์ได้รับรู้มา แต่รู้ญาณได้มาจากสัมผัสละเอียดที่อยู่ลึกเข้าไป โดยหลักเหตุผล ยิ่งต้องมีการตรวจสอบมากกว่าข้อมูลของกายมนุษย์ด้วยซ้ำ
นับเป็นโชคดีของเรา ที่ครูบาอาจารย์ท่านเน้นเรื่องการตรวจสอบรู้ญาณอยู่เสมอ ไม่ให้เชื่ออะไรง่ายๆ เราจึงมีความรู้นี้เป็นพื้นฐานอยู่ วิธีการตรวจสอบทำอย่างไร เป็นความรู้ลึกและยาว ขอให้หาอ่านในหนังสือปราบมารภาค 1 ของคุณลุงนะครับ
- เพราะ รู้ญาณที่เราสัมผัสได้ ชัดเจนมาก
หากไม่เคยรู้มาก่อนว่ารู้ญาณทั้งปวงต้องตรวจสอบ เราก็คงอาศัยความชัดเจนเป็นหลัก โดยเข้าใจว่ายิ่งชัด ก็น่าจะยิ่งถูกต้อง
แต่ความเป็นจริง แม้การเห็นกับตาของกายมนุษย์ การได้ยินมากับหูของกายมนุษย์ ยังตีความผิดพลาดมานักต่อนัก ทำเอาคนทะเลาะกันมานักต่อนัก นับประสาอะไรกับความรู้ที่ว่าชัดๆ จากภายในที่เราฝันเข้าไปไม่รู้กี่ชั้น แล้วจะไม่หลอกเรา
เราเคยจับผิดนักมายากลเก่งๆ ได้หรือไม่? เห็นชัดกับตา ยังจับผิดเขาไม่ได้ พอเขาเฉลยจึงรู้ว่าเป็นเพียงการลวงตาเราเท่านั้น
- เพราะ มันเคยถูกต้องมาก่อน (แทบ)ทุกครั้ง
มีความรู้อยู่ว่า หากเป็นเรื่องไม่สำคัญ รู้ญาณนั้นเขาไม่ขวาง เรารู้ว่าภาคมารมักลวงให้เราหลงผิดได้เสมอ รู้ญาณเล็กๆ น้อยๆ หลายๆ อย่าง เราถูกมาตลอด เพราะเขาไม่จำเป็นต้องขวางเรา ดีเสียอีก เราจะได้เข้าใจผิดว่าเราเป็นผู้วิเศษแท้ ทำนายทายทักแม่นยำ เช่นบางทีจะไปไหน เกิดรู้ว่าของจะหาย แล้วของนั้นก็หายจริงๆ ผู้ทายก็กระหยิ่มใจว่าเรารู้ล่วงหน้าก่อนใคร สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ ถูกมาเป็น 99 ครั้ง พอเราจะตัดสินใจอะไรครั้งที่ 100 มันจะไม่ถูกหรือ??
บังเอิญ การตัดสินใจนั้นเป็นครั้งสำคัญในชีวิต เช่นเราควรจะนับถือหมู่คณะไหนดี เราควรเชื่อในความเชื่อไหนดี คราวนี้มันไม่ถูกง่ายๆ หรอก แต่มันเป็นรู้ญาณครั้งที่ 100 ซึ่งเราถูกมาตลอด 99 ครั้งเชียวนะ ตอนนี้ท่านจะเอาเหตุผลหรือจะเอารู้ญาณมาตัดสิน
- เพราะ ความเผลอเรอ
บางครั้ง เรื่องราวมันเล็กๆ น้อยๆ จนเราไม่คิดว่าจะต้องตรวจสอบ ก็เน้นกันแต่เรื่องสำคัญๆ
หรือ บางครั้งเราไม่ทันตั้งตัว ประสบการณ์ของครูอาจารย์ เช่นกำลังเดินวิชชา จู่ๆ ก็เห็นเป็นพ่อแม่บุตรภรรยา หรือหลวงพ่อวัดปากน้ำปรากฏขึ้นให้เราชะงัก อันนี้อาจไม่ได้ทำให้เราเชื่อ แต่ทำให้วิชชาเราช้าลง
เราอยู่ในชีวิตประจำวันของเรา เราคงเผลอไปบ้างไม่มากก็น้อย รับรู้อะไรมาก็อาจคล้อยตามไปบ้างเหมือนกัน แต่เมื่อตั้งสติได้ ก็ขอให้เอาความรู้นี้เป็นหลักเกณฑ์ไว้ก่อนนะครับ