Pages

Tuesday, November 27, 2012

ทางเลือก

ขอคัดลอกเอาบทความของคุณโสภา คงนาม ใน Facebook มาลงไว้ในที่นี้
เนื้อหาคล้ายๆ กับ การแก้โรค กับ ความคาบลูกคาบดอก

นิทาน”ทางเลือก”
คำว่ามีพระที่ไหนมีมารที่นั่นได้ยินมานานมากแล้ว แต่เรื่องนี้เป็นนิทานเล่าสู่กันอ่านเล่นเพลินๆ

ในอดีตมีหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีพระกับมารอาศัยอยู่รวมกัน ต่างคนต่างต้องการจะครอบครองคนในหมู่บ้านมาเป็นพวกของตัวเองให้มากที่สุด คนในหมู่บ้านต่างคนต่างทำมาหากินโดยไม่รู้ว่าตัวเอง จะตกเป็นคนของฝ่ายพระหรือฝ่ายมา

วันหนึ่งมาเกิดโรคระบาดเกิดขึ้น ทุกคนเริ่มมีอาการเจ็บป่วยแบบไม่มีสาเหตุ และก็มีการใฝ่หาทางรักษาให้ตนและคนในครอบครัวพ้นจากโรคนี้ นายตลกก็เป็นอีกคนหนึ่งเช่นกันที่ป่วยและใฝ่หาทางรักษา มาเจอพระก่อนพระบอกหากอยากหายต้องทำบุญทำทาน รักษาศีลและเจริญภาวนา นายตลกก็ทำตามอยู่นานเกือบปี อาการก็เพียงทรงๆไม่หายขาด แต่เพื่อนบ้านที่เป็นโรคเดียวกัน แต่ไปรักษากับมาร มารบอกให้เพื่อนเข้าจัดบูชาด้วยเครื่องเซ่นไหว้มีของหวานของคาวตามที่มารบอกให้ทำ และต้องนับถือแบบจริงจังอย่าไปๆมาๆไม่ได้ หากทำแบบนั้นมารไม่ช่วย เพื่อนนายตลกหายเจ็บป่วยและรำรวยขึ้นมากอย่างมหัศจรรย์

นายตลกเฝ้ามองเพื่อนตัวเองด้วยความสงสัย และคิดว่าเรามาผิดทางแน่ๆ ไม่เห็นผลอะไรเลยเมื่อเราทำตามพระ ถึงจะสงบแต่เจริญช้าไม่ทันใจ จึงคิดหาหนทางที่จะบอกพระว่าตัวเองนั่น ในวันนี้ทำทานถือศีลและทำภาวนาไม่ได้ เพราะร่างกายไม่พร้อม ขอหยุดสักพักก่อนเดียวมีแรงแล้วจะกลับมาทำ พระได้แต่นิ่งและพูดขึ้นว่า “ใจเรานั่นมีทางเลือกเกิดขึ้นใหม่เสมอ อยู่แต่ว่าการที่นายตลกจะเลือกทำและเลือกเลิกทำนั่น เราไปห้ามนายตลกไม่ได้หรอก แล้วแต่ใจของนายตลกเองเท่านั่นที่จะตัดสินเอาเองว่า นายตลกจะเลือกทำแบบไหน”

เบื้องหลังการหายโรคนั่นมีอยู่ว่า คนในหมู่บ้านอยู่เย็นเป็นสุข นั่นเป็นความเสื่อมของมาร ด้วยความเจ้าอุบายจึงหยิบโรคแปลกๆใส่เข้าไปให้คนเหล่านั้นเดือดร้อน แล้วตั้งตัวเป็นผู้รักษาโรคด้วยการหยิบเอาโรคที่ใส่ไปนั่นออกเสีย คนที่ทำตามคำสั่งมารโรคก็หายเป็นปลิดทิ้งเป็นสิ่งมหัศจรรย์มากมาย แต่พระต้องพยายามแก้โรคที่เกิดแก่คนที่มาให้รักษา ต้องหาสาเหตุแห่งการเกิดโรคว่ามารตนไหนเป็นคนทำ แล้วตามแก้ หากพบก็ต้องประลองฤทธิ์กัน เพื่อที่จะเอาโรคนั่นออกไปจากคนที่กำลังเดือดร้อน

ผลคือต้องหาต้องแก้ แต่มารเอาเข้าไปและเอาออกมาเองไม่ต้องเสียเวลาไปหา มันก็เลยศักดิ์สิทธ์และได้คนมาเป็นพวกมากกว่าพระ แต่พระก็ยังคงทำหน้าที่ต่อไป และทำต่อไปตราบจนมาถึงทุกวันนี้ และนี่คงเป็นที่มาที่ไปของคำว่า”มีพระที่ไหนมีมารที่นั่น”