วันนี้อยากแบ่งปันเรื่องเบาๆ บ้าง เพื่อให้วิทยากรมีความเชื่อมั่นในวิชชา ว่าสามารถกำจัดทุกข์ กำจัดภัย กำจัดโรค ได้จริงๆ วันใดที่เรารู้สึกว่าเราเดินวิชชาได้ดีแสนดี พอออกจากวิชชาก็ “โดน” เลย เราก็อย่าเพิ่งท้อใจ และเข้าใจผิดในวิชชา เขาก็ต้องการให้เราเข้าใจอย่างนั้นคือ ถึงเธอจะเดินวิชชาได้ดีปานใด เธอก็โดน เราต้องฝ่าด่านนี้ไปให้ได้ ให้มันรู้กันว่ายิ่งโดน ก็ยิ่งเดินวิชชา ไม่มีอะไรมาห้ามเราได้ และถ้าโดนหนักๆ เข้า เราก็เป็นศิษย์มีอาจารย์ เราจะฟ้องคุณครูเรานะ ไม่ใช่พอเดินวิชชาแล้วโดน ก็ไม่กล้าเดินวิชชา เข้าทางมันพอดี!
เช้าวันหนึ่ง มีคนสติไม่ดี(บ้า) มายืนอยู่หน้าคลินิกของผม เนื้อตัวมอมแมม วางสัมภาระข้าวของไว้ที่ฟุตบาท พูดจาและร้องเพลงเสียงดัง แถมหยิบบุหรี่มวนใบจากขึ้นมาสูบอย่างสบายอารมณ์ เราคิดว่ามันร้องเพลงจนเหนื่อย ก็คงจะไปเอง แต่น่าแปลก คนบ้าไม่เคยเหนื่อยง่ายๆ เสียงดังขึ้นทุกที พร้อมกับกลิ่นบุหรี่ใบจากลอยเข้ามาในร้าน
แว่บแรกๆ ของความคิด คือพยายามแก้ไขแบบคนทั่วๆ ไป เราจะออกไปเตะมันซะเลยดีไหม หรือจะหาตำรวจที่ไหนมาจับตัวมันไป นึกไปนึกมา ก็นึกถึงที่คุณลุงเคยสอนให้ช่วยคน เวลาเขากำลังทำร้ายตัวเอง เอามีดเชือดตัวเอง เออ ทำไมเราไม่นึกถึงการแก้ไขทางวิชชาก่อน
ผมนึกเอาใจกายมนุษย์(พิเศษ) ยิงเข้าไปในกายมนุษย์ของคนบ้า เข้าไปตามฐาน 7 ฐาน(หรือ 3 ฐานลัดลงท้อง) เข้าไป หมุนขวา แลบลั่นย่อยแยกระเบิดผ่าดับละลายให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ ฯลฯ ตามที่คุณลุงสอนเอาไว้ แล้วไปทำที่กายฝัน กายทิพย์หยาบ ทิพย์ละเอียด ... จนถึงกายธรรมพระอรหัตต์ละเอียด ของคนบ้า ปฏิโลมกลับมาที่กายมนุษย์ของคนบ้าอีกครั้ง ทำไป ละลายลูกเดียว
แล้วเงี่ยหูฟังว่ามันไปหรือยัง เอ เสียงมันเงียบไปเหมือนกันนะ แอบหรี่ตาดู อ้าว มันร้องเพลงต่อ แถมหยิบบุหรี่อีกมวนขึ้นมาสูบ มันยังไม่ไป มันจะได้ผลหรือเปล่าเนี่ยะ ผมหลับตาจะเดินวิชชาต่อ
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงอันดัง “ไป ไปเลย มาสูบบุหรี่หน้าร้านหมอเขาได้ยังไง โน่น ไปอยู่ริมน้ำโน่น !!” คนข้างบ้านถัดไปอีก 2 ห้อง เดินมาไล่ให้ คนบ้าเผ่นกระเจิงไปทันที
หลายท่านคงเคยมีประสบการณ์แก้ไขอะไรๆ ด้วยวิชชามาบ้าง นี่ก็เป็นเรื่องเล็กน้อย อาจเป็นความบังเอิญก็ได้
เพียงแต่การแก้ไขมันเกิดหลังจากเราเดินวิชชาเท่านั้นเอง