วิทยากรเคยสับสนเรื่องปากช่องจมูก หญิงซ้าย ชายขวา หรือไม่ ถ้าท่านสับสน ผมก็เคยสับสนมาก่อน เราลองมาพิจารณาเรื่องนี้กัน
ทำไมต้องหญิงซ้าย ชายขวา ไม่เหมือนกัน?
มันเป็นกฏ มันเป็นตำรา มันเป็นธรรมชาติ เพราะฉะนั้น ห้ามสงสัย เหมือนจะถามว่าทำไมต้องมีผู้หญิงผู้ชายนั่นแหละ
ในบทต้นๆ ของคู่มือสมภารบอกว่าหากเราชำนาญแล้ว ในการเดินวิชชาครั้งต่อๆ ไป เราไม่ต้องเดินใจตามฐานก็ได้ ให้เราเอาใจไปตั้งที่ศูนย์กลางกายเลย ทำไมแนวทางของเราจึงต้องเดินฐาน 7 ฐาน หรืออย่างน้อย 3 ฐานลัดลงท้องอยู่?
คำถามนี้ผมถามคุณลุง โดยอ้างอิงข้อมูลที่ว่ากายทุกกายมีศูนย์(กลางกาย)ตรงกันเหมือนรูสตางค์แดงที่เราร้อยเชือกเข้าด้วยกัน ทำไมเรายังต้องเดินฐาน โดยเริ่มที่ปากช่องจมูกของกายใหม่ คุณลุงตอบว่า หากไม่มีมาร หรือจุดดำมาขวางเรา เราเดินวิชชาทะลุถึงกันได้เลย แต่มารเขามักเข้ามายุ่งกับเราทุกเรื่องทำให้การเดินวิชชาไม่สะดวกอย่างที่น่าจะเป็น อีกอย่างหนึ่งคือ ปากช่องจมูกเปรียบเสมือนประตูบ้าน เราจะเข้าไปกลางบ้าน เราต้องเข้าทางประตู
เวลาเดินวิชชา 18 กาย จนเข้าหากายธรรมต้นธาตุ แล้วเข้าหาพระพุทธองค์ในนิพพาน ล้วนยึดเพศของตัวเราคือ หากเราเป็นหญิงก็เข้าปากช่องจมูกซ้ายของกายธรรมต้นธาตุ และพระพุทธองค์ หากเราเป็นชายก็เข้าปากช่องจมูกขวาของกายธรรมต้นธาตุ และพระพุทธองค์ เราเลยถือว่ายึดตัวเราเป็นหลักตลอดมา
ต่อมาได้รับความรู้เพิ่มเติม เวลาเราจะยิงกายเราไปช่วยคนอื่น เราต้องดูเพศของคนที่เราจะช่วย และเข้าปากช่องจมูกให้ถูกตามเพศของเขา หรือแม้การละลายกายมารก็เช่นกัน ก็ต้องดูเพศเขาด้วย จึงเกิดความสับสนว่าจะยึดอะไรเป็นหลักดี?
ผมเคยให้วิทยากรถามความสับสนนี้แก่คุณลุง ได้รับคำตอบว่า อะไรกัน เดินวิชชามาตั้งนาน ปากช่องจมูกยังเข้าไม่ถูก แล้วเมื่อไหร่เราจะชนะ !?
สุดท้ายผมก็พบคำตอบว่า หากเราเดินวิชชาอยู่ในศูนย์(กลางกาย)ของเรา ให้ยึดเพศตัวเราเป็นหลัก หากเราเกิดความฉุกละหุก จำเป็นต้องยิงกาย(ฯลฯ)ของเราออกไปยังคนอื่น ให้ยึดเพศของคนที่เรายิงไปหา เป็นหลัก
จึงสรุปไว้เป็นข้อมูลในที่นี้นะครับ