ต้นเดือน ธ.ค.2554 ผมได้มีโอกาสไปทานอาหารบุฟเฟ่ต์ที่ร้านอาหารการะเวก ซึ่งเป็นร้านอาหารระดับใหญ่แห่งหนึ่ง
สิ่งที่น่าสังเกตสำหรับแขกบางคนเวลาไปตักอาหารก็คือ
เขามักจะเลือกตักแต่สิ่งที่ตนเองชอบ เช่นถ้าเขาไม่ชอบผัก เขาก็ไม่ตักสลัด
บางทีไม่ตักผลไม้ด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่ร้านอาหาร
มีบริการอาหารหลากหลายให้เลือกได้ตามใจชอบ หากเราเลือกตักอาหารให้ทั่ว
กระจายไปในลักษณะ “ครบ 5 หมู่” ตามหลักสุขศึกษา เราคงได้รับประโยชน์จากสารอาหารอีกมาก แต่เมื่อมันเป็นของเลือกได้ และไม่ได้มีกฏเกณฑ์ใดใดมาบังคับ ลักษณะการตักอาหารจึงเป็นเช่นนั้น
เหตุการณ์ในชีวิตเราหลายๆ เรื่อง
เราไม่อาจเลือกได้ เช่นการเล่าเรียน โดยเฉพาะในสายวิชาชีพ เช่นการเรียนแพทย์ ซึ่งมีการกำหนดหลักสูตรตายตัวไว้แล้วว่า
แพทย์ต้องมีความรู้พื้นฐานอะไรบ้าง ที่จะต้องเรียนรู้ให้จบและสอบให้ผ่าน
เราจะมีสิทธิ์เลือก ก็เพียงวิชาเลือกบางวิชาเท่านั้น ตัวผมเองไม่ชอบวิชา Preclinic
อยู่หลายอย่างเพราะต้องท่องจำมาก เช่น Biochemistry
Anatomy Physiology แต่ผมก็ไม่อาจเลือกที่จะไม่เรียนได้
เนื่องจากเป็นพื้นฐานสำคัญอันหนึ่งของความเป็นแพทย์
การเรียนในสายธรรมะก็เช่นเดียวกัน
โดยเฉพาะวิชชาธรรมกายซึ่งมีหลักสูตรให้เรียนอย่างชัดเจน แต่ไม่มีโรงเรียนที่สอนภาคบังคับตามหลักสูตรแบบการเรียนในทางโลก
เราจึงเห็นผู้เรียนหลายท่านเลือกที่จะเรียนรู้เฉพาะสิ่งที่ตนชอบเหมือนการตักอาหารบุฟเฟ่ต์
ส่วนใหญ่ติดอภินิหาร ก็เลือกสนใจความรู้ที่เป็นอภินิหาร
แต่ความรู้เกี่ยวกับการเดินวิชา ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสมถะวิปัสสนา
ซึ่งเป็นยาขมหม้อใหญ่ มักผ่านไปโดยไม่ค่อยอยากทบทวน ซึ่งผมก็พบเห็นในบล็อกเช่นกัน
ความเป็นธรรมกายก็คล้ายๆ
กับการเป็นผู้ทรงคุณวุฒิอย่างหนึ่งในทางโลก เช่นแพทย์ วิศวกร แต่ในทางโลก เราเลือกวิชาเรียนที่ถูกใจเราทั้งหมดไม่ได้
เพราะเขาบังคับเราให้ผ่านหลักสูตรที่เขากำหนดมาเสียก่อน เขาถึงจะยอมรับเรา
แต่วิชาธรรมกายยังไม่ได้บังคับหลักสูตรกันขนาดนั้น
ข้อดีคือมีความยืดหยุ่นและอิสระในการเลือกที่จะศึกษา แต่ข้อเสียก็คือเราไม่มีมาตรฐานของความรู้ในวิชชาธรรมกายที่แท้จริง
จึงพบสำนักสอนธรรมกายบางสำนักซึ่งบอกว่าสอนธรรมกายแต่กลับสอนเน้นหนักเรื่องไตรลักษณ์
ปล่อยวางไปหมด เห็นพระแล้วให้รีบพิจารณาให้พระหายไป อย่างนี้ก็มี
เราจะเรียนวิชา
เราต้องยอมอ่านบทเรียนทั้งหมดทุกบท ไม่ว่าจะเข้าใจยากสักเพียงใดก็ตาม
อย่าเลือกเอาแต่บทเรียนที่ถูกกับความชอบของตนแต่อย่างเดียว มิฉะนั้นท่านก็เปรียบเสมือนการเลือกทานอาหาร
ที่ไม่ครบ 5 หมู่ตามที่พื้นฐานร่างกายมนุษย์ควรได้รับ แบบการเลือกตักอาหารบุฟเฟ่ต์นั่นเอง