Pages

Friday, December 16, 2011

บุฟเฟ่ต์ (Buffet)


ต้นเดือน ธ.ค.2554 ผมได้มีโอกาสไปทานอาหารบุฟเฟ่ต์ที่ร้านอาหารการะเวก ซึ่งเป็นร้านอาหารระดับใหญ่แห่งหนึ่ง สิ่งที่น่าสังเกตสำหรับแขกบางคนเวลาไปตักอาหารก็คือ เขามักจะเลือกตักแต่สิ่งที่ตนเองชอบ เช่นถ้าเขาไม่ชอบผัก เขาก็ไม่ตักสลัด บางทีไม่ตักผลไม้ด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่ร้านอาหาร มีบริการอาหารหลากหลายให้เลือกได้ตามใจชอบ หากเราเลือกตักอาหารให้ทั่ว กระจายไปในลักษณะ ครบ 5 หมู่ ตามหลักสุขศึกษา เราคงได้รับประโยชน์จากสารอาหารอีกมาก แต่เมื่อมันเป็นของเลือกได้ และไม่ได้มีกฏเกณฑ์ใดใดมาบังคับ ลักษณะการตักอาหารจึงเป็นเช่นนั้น

เหตุการณ์ในชีวิตเราหลายๆ เรื่อง เราไม่อาจเลือกได้ เช่นการเล่าเรียน โดยเฉพาะในสายวิชาชีพ เช่นการเรียนแพทย์ ซึ่งมีการกำหนดหลักสูตรตายตัวไว้แล้วว่า แพทย์ต้องมีความรู้พื้นฐานอะไรบ้าง ที่จะต้องเรียนรู้ให้จบและสอบให้ผ่าน เราจะมีสิทธิ์เลือก ก็เพียงวิชาเลือกบางวิชาเท่านั้น ตัวผมเองไม่ชอบวิชา Preclinic อยู่หลายอย่างเพราะต้องท่องจำมาก เช่น Biochemistry Anatomy Physiology แต่ผมก็ไม่อาจเลือกที่จะไม่เรียนได้ เนื่องจากเป็นพื้นฐานสำคัญอันหนึ่งของความเป็นแพทย์

การเรียนในสายธรรมะก็เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะวิชชาธรรมกายซึ่งมีหลักสูตรให้เรียนอย่างชัดเจน แต่ไม่มีโรงเรียนที่สอนภาคบังคับตามหลักสูตรแบบการเรียนในทางโลก เราจึงเห็นผู้เรียนหลายท่านเลือกที่จะเรียนรู้เฉพาะสิ่งที่ตนชอบเหมือนการตักอาหารบุฟเฟ่ต์ ส่วนใหญ่ติดอภินิหาร ก็เลือกสนใจความรู้ที่เป็นอภินิหาร แต่ความรู้เกี่ยวกับการเดินวิชา ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสมถะวิปัสสนา ซึ่งเป็นยาขมหม้อใหญ่ มักผ่านไปโดยไม่ค่อยอยากทบทวน ซึ่งผมก็พบเห็นในบล็อกเช่นกัน

ความเป็นธรรมกายก็คล้ายๆ กับการเป็นผู้ทรงคุณวุฒิอย่างหนึ่งในทางโลก เช่นแพทย์ วิศวกร แต่ในทางโลก เราเลือกวิชาเรียนที่ถูกใจเราทั้งหมดไม่ได้ เพราะเขาบังคับเราให้ผ่านหลักสูตรที่เขากำหนดมาเสียก่อน เขาถึงจะยอมรับเรา แต่วิชาธรรมกายยังไม่ได้บังคับหลักสูตรกันขนาดนั้น ข้อดีคือมีความยืดหยุ่นและอิสระในการเลือกที่จะศึกษา แต่ข้อเสียก็คือเราไม่มีมาตรฐานของความรู้ในวิชชาธรรมกายที่แท้จริง จึงพบสำนักสอนธรรมกายบางสำนักซึ่งบอกว่าสอนธรรมกายแต่กลับสอนเน้นหนักเรื่องไตรลักษณ์ ปล่อยวางไปหมด เห็นพระแล้วให้รีบพิจารณาให้พระหายไป อย่างนี้ก็มี

เราจะเรียนวิชา เราต้องยอมอ่านบทเรียนทั้งหมดทุกบท ไม่ว่าจะเข้าใจยากสักเพียงใดก็ตาม อย่าเลือกเอาแต่บทเรียนที่ถูกกับความชอบของตนแต่อย่างเดียว มิฉะนั้นท่านก็เปรียบเสมือนการเลือกทานอาหาร ที่ไม่ครบ 5 หมู่ตามที่พื้นฐานร่างกายมนุษย์ควรได้รับ แบบการเลือกตักอาหารบุฟเฟ่ต์นั่นเอง