Pages

Monday, November 14, 2011

เราสร้างบารมีไปทำไม ?


เราสร้างบารมีไปทำไม ?

วันนี้อยากเปิดประเด็นด้วยคำถามง่ายๆ แต่หากจะตอบเอาความกันจริงๆ ก็ยากเหมือนกัน เราเคยเจอแต่คำถามที่ว่า เราเกิดมาทำไม? คำตอบสำหรับนักสร้างบารมีก็คือ เกิดมาเพื่อสร้างบารมี แต่หลังจากนั้นลองถามต่อว่า เราสร้างบารมีไปทำไม?

ยุคปัจจุบัน เราอาจตอบว่า เราสร้างบารมีให้มาก เพื่อหนีให้พ้นจากทุกข์ภัยโรคทั้งปวง เมื่อบารมีเราแก่กล้าจะชนะอุปสรรคปัญหาทั้งปวงได้ พอแก่กล้าหนักเข้าจริงๆ ก็ให้พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด และเข้านิพพานอันเป็นบรมสุขต่อไป คือหนีความทุกข์ เพื่อไปพบความสุขที่ถาวรกว่า หรือเพื่อชนะมารในระดับต่างๆ นั่นเอง อันเป็นคำตอบหนึ่งในยุคปัจจุบันที่ธาตุธรรมของเราถูกปนเป็นไปก่อนแล้ว เราอยากเป็นอิสระจากการปนเป็นนั้น เราก็เร่งสร้างบารมีเพื่อชนะกิเลส(มาร)

อย่างไรก็ตาม ผมเคยเขียนบทความเรื่อง วิชชาธรรมกายกับประวัติศาสตร์(1) มาก่อนแล้ว เราพบว่ายุคแรกๆ ที่ธรรมภาคขาวบังเกิดขึ้น ภาคขาวก็ต้องสร้างบารมีเพื่อเข้านิพพานเป็น ตอนนั้นธรรมภาคมารยังไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับเรา ยังไม่ได้มาปกครองเรา เราก็ยังต้องสร้างบารมี ตอนนั้นเราสร้างบารมีไปทำไม เราไม่น่าจะมีทุกข์ภัยโรคจากมาร มิใช่หรือ? มนุษย์ก็น่าจะเป็นสุขพอที่จะอยู่เฉยๆ ได้ โดยไม่จำเป็นต้องขวนขวายอะไรอีก

มาถึงตอนนี้ คำตอบของการสร้างบารมี จึงไม่ใช่ การรบกับกิเลส เพียงอย่างเดียวเสียแล้ว แต่หากจะเป็น การยกระดับธาตุธรรม ของเราให้สูงขึ้นนั่นเอง ทำเพื่ออะไร? แสดงว่า หากธาตุธรรมของเรายังไม่สูงพอ คงจะมี ความไม่สมบูรณ์ บางอย่าง ที่ทำให้เรา สุขไม่เต็มที่ ไม่ถาวร ไม่เช่นนั้นมนุษย์ยุคทานศีลภาวนา หรือยุคนิพพานเป็นก็คงไม่ต้องสร้างบารมีเพื่อเข้านิพพาน

ทุกข์ภัยโรค จำเป็นต้องเกิดจากมารเสมอไปหรือไม่? จึงเป็นอีกคำถามหนึ่งที่น่าคิดในยุคที่การปราบมารดำเนินมาถึงจุดสำคัญ อย่างน้ำท่วมใหญ่คราวนี้ มีบางประเด็นบอกว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่เกี่ยวกับธาตุธรรมใดใด ไม่ว่าพระหรือมาร แต่เป็นเพราะโลกร้อนขึ้น น้ำแข็งละลาย ทำให้มีน้ำส่วนเกินมาก มีผลทำให้น้ำท่วมมากกว่าปีก่อนๆ นั่นคือเป็นความไม่สมดุลย์ของธาตุ นั่นเอง แม้ทุกข์ภัยโรคในครั้งนี้ อาจเริ่มต้นจากเหตุดั้งเดิม เช่นความโลภของมนุษย์ทำให้ปลูกบ้านสร้างเรือนในพื้นที่น้ำผ่าน น้ำก็ท่วมเอา เกิดทุกข์ขึ้นอีกโดยไม่มีใครต้องมาสับโขกซ้ำ อันนี้ผมวิเคราะห์ในประเด็นที่เราเชื่อว่าเป็นเรื่องธรรมชาติล้วน

หากเปรียบบารมีเป็นเสมือนเงินทอง การสั่งสมบารมีให้มากเข้าไว้ จึงเป็นความไม่ประมาท เหมือนเราจำเป็นต้องทำมาหากินสั่งสมเงินทองไว้ก่อน เผื่อใช้สอยทั้งในยามปกติ และในยามฉุกเฉิน


ขอเปิดประเด็นไว้ให้ช่วยกันคิดต่อ ต้องขอโทษสำหรับผู้กำลังติดตามอ่านบล็อกที่ทิ้งช่วงมานานนะครับ